5. เวลาว่างบนเนินเขามอนแฟราโต

แก้วบินได้
เมื่อพูดว่าวันหยุดเป็นอันตรายนั้น พ่อหมายถึง แก่ตัวเอง เพราะโดยไม่รู้ตัวเณรคนหนึ่งอาจประสบกับอันตรายในตอนเย็นก็เป็นได้ สำหรับพ่อก็เป็นดังนั้น
คราวหนึ่งญาติพี่น้องของพ่อได้เชิญพ่อไปร่วมงานฉลองที่วัด พ่อเองไม่อยากไปเลย แต่ลุงอ้อนวอนว่าไม่มีเณรคนใดเลยที่ช่วยคุณพ่อเจ้าวัดจัดพิธีกรรมหลังจากที่ท่านได้ยืนกรานเช่นนั้น พ่อจึงต้องตอบตกลง พ่อร่วมพิธีมิสซา ช่วยจารีตบนพระแท่น และขับเพลง หลังเวลาอาหารเที่ยงก็มาถึง ทีแรกทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีแต่เมื่อเหล้าองุ่นเริ่มออกฤทธิ์ (มีการชนแก้วนิดหน่อย) บทสนทนาซึ่งเณรคนหนึ่งทนฟังไม่ได้ก็เริ่มดังขึ้นทั่วบริเวณ พ่อพยายามเลี่ยงการสนทนานั้น แต่ปรากฎว่าเสียงขอร้องของพ่อถูกกลบจากเสียงเอะอะนั้นโดยสิ้นเชิง พ่อไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปจึงตัดสินใจที่จะเดินออกไปเสีย พ่อหยิบหมวกและลุกขึ้น แต่คุณลุงได้ทัดทานไว้ขณะนั้นผู้รับเชิญคนหนึ่งเกิดเมาเหล้า จึงเริ่มพูดเสียหายแก่ผู้ที่อยู่ที่นั่นทุกคน คนเมาอีกคนหนึ่งก็เริ่มยืนขึ้นแล้วโต้ตอบกลับไปบ้าง จึงเกิดความวุ่นวายอลม่านขึ้นแก้วเริ่มบินได้ ที่สุดจาน ขวด ช้อนส้อม ก็บินกันว่อน บางคนถึงกับชักมีดออกมา พ่อเข้าใจว่าสิ่งเดียวที่น่าทำก็คือหาที่ปลอดภัย แล้วพ่อก็หนีออกมาได้ เมื่อถึงบ้าน พ่อได้รื้อฟื้นความตั้งใจที่ได้ทำไว้บ่อยขึ้น คือจะหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะสูญเสียสมบัติอันล้ำค่านั้น เพื่อจะได้ไม่สูญเสียมิตรภาพกับพระเป็นเจ้า
ไวโอลินแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เรื่องไม่ดีไม่งามอีกเรื่องหนึ่งได้เกิดขึ้นกับพ่อที่ โครเวญา แคว้นบุตตีเยรา ในวันฉลอง น.บาโทโลเมว พ่อได้รับเชิญจากลุงให้ไปช่วยจารีตพิธีในวัดพ่อต้องช่วยจารีต ร้องเพลงและสีไวโอลินเครื่องดนตรีชนิดนี้พ่อโปรดปรานมาก แต่พ่อได้สละแล้วในวันสวมเสื้อเป็นสามเณร
ในวัด พิธีผ่านไปอย่างเรียบร้อยดีมาก
อาหารเที่ยงทำในบ้านของลุง ผู้เป็นเจ้าภาพของงานฉลอง และไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม แต่หลังอาหารเที่ยงบรรดาแขกผู้รับเชิญได้ขอให้พ่อสีเพลงบางบทเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความเบิกบานพ่อตอบปฏิเสธ นักดนตรีคนหนึ่งที่อยู่ที่นั่นจึงขอร้องพ่อว่า
ผมจะเล่นเสียงหนึ่ง ส่วนท่านอย่างน้อยช่วยทำเสียงประสานนิดหน่อย
สมน้ำหน้าพ่อจริง ๆ ที่ไม่รู้จักพูดคำว่า ไม่ คือเมื่อพ่อเริ่มสีไปชั่วครู่ก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบและเสียงวุ่นวายของคน พ่อจึงโผล่หน้าออกมาดูทางหน้าต่างก็เห็นกลุ่มชนในสนามกำลังเต้นรำตามเสียงดนตรีเขาอย่างสนุกสนาน บอกไม่ถูกว่าขณะนั้นพ่อรู้สึกโมโหเพียงไร
เอนี่มันยังไงกัน เราได้เทศน์มิให้พวกท่านไปเต้นรำในที่สาธารณะ แต่วพวกท่านกลับมาตั้งวงกลางสนามเสียเอง โอ! เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่ๆ
แล้วพ่อก็ฟาดไวโอลินของจนแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พ่อไม่เคยจับเครื่องดนตรีชนิดนี้อีกเลย แม้ว่าจะมีการเสนอให้ใช้ในวัดได้ก็ตาม
การล่าสัตว์ครั้งสุดท้าย
ยังมีเหตุการณ์ อีกอย่างหนึ่งอุบัติขึ้นในระหว่างวันหยุด ช่วงฤดูร้อนต่อกับฤดูใบไม้ร่วง พ่อได้ไปจับนกด้วยวิธีที่ใช้ในสมัยนั้น เช่น กับดัก กรง และปืนยาวเช้าวันหนึ่ง พ่อเห็นกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว พ่อรีบตามมันไป มันวิ่งผ่านทุ่งนาหลายแห่ง สวนองุ่นหลายสวน ที่สุดถึงกับทำให้พ่อต้องข้ามหุบเขาและปีนขึ้นไปบนเนินโดยเสียเวลาหลายชั่วโมง กว่าจะได้มันด้วยการยิง ซึ่งทำให้เจ้าสัตว์ที่น่าสงสารล้มลง พ่อรู้สึกเสียใจมากที่เห็นมันตาย เพื่อนไม่มีเสื้อหล่อบางคนที่ติดตามพ่อมาได้แสดงความยินดีที่พ่อประสบความสำเร็จ แต่ครั้นเมื่อพ่อก้มดูตัวเองก็ให้รู้สึกละอายใจเป็นกำลัง เพราะเวลานั้นพ่อเหลืออยู่ก็แค่เสื้อชั้นในที่ถูกถลกแขนเสื้อขึ้นจนถึงครึ่งแขนและใส่หมวกฟางอย่างกับพวกคาวบอย ที่วิ่งถือปืนด้นดั้นมาถึง 5 กิโลเมตร เพื่อจะได้ฆ่ากระต่ายน่าสงสารนี้เพียงตัวเดียว พ่อได้รับขอโทษเพื่อน ๆ สำหรับฉากที่ไม่สู้จะงดงามนั้น แล้วก็รีบกลับบ้านทันที พ่อทำข้อตั้งใจอีกเป็นครั้งที่ 2 ว่าจะไม่ไปล่าสัตว์อีกเลย และโดยอาศัยความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้า คราวนี้พ่อสามารถถือตามสัญญาได้ขอพระองค์โปรดยกโทษให้พ่อสำหรับการเป็นที่สะดุดในวันนั้นด้วยเถิด
เรื่องราว 3 ประการที่พ่อเล่าให้ฟังนี้ นับเป็นบทเรียนเรื่องเดียวสำหรับพ่อ ถ้าใครอยากดำเนินรับใช้พระเป็นเจ้าอย่างเจ้าแท้จริงแล้ว สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาเวลาสำรวมตนมากยิ่งขึ้น และเลิกความสนุกสนานฝ่ายวัตถุอันเป็นอุปสรรคนั้นจริงอยู่ที่ความสนุกสนานเหล่านั้น ในตัวมันเองไม่ได้เป็นที่ขัดเคืองพระทัยของพระเป็นเจ้า แต่ทว่าในระหว่างความสนุกสนานนั้นมีการสนทนาที่ไม่ดี วิธีแต่งตัววิธีพูดวิธีกระทำที่อาจเป็นอันตรายที่จะทำลายมิตรภาพกับพระเป็นเจ้าได้เพราะพระองค์เองก็ได้ทรงสั่งให้เราเป็นผู้บริสุทธิ์ ในความคิด คำพูด และในการกระทำอยู่แล้ว
ฆ่าไก่
พ่อเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของหลุยส์ โกมอลโล ตลอดเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่ในระหว่างวันหยุดหลายครั้งพ่อไปบ้านของเขาหรือไม่เขาก็มาที่บ้านของพ่อ เราเขียนจดหมายถึงกันด้วย พ่อถือว่าเขาเป็น เด็กที่ศักดิ์สิทธิ์ และพ่อก็รักเขาเพราะเขามีใจดีอย่างหาตัวจับยาก เมื่ออยู่ด้วยกันเราช่วยกันในเรื่องการเรียนและพ่อก็พยายามเลียนแบบจากเขาด้วย
หลังจากเรียนจบเทวศาสตร์ปีที่ 1 วันหนึ่งเขาได้มาหาพ่อขณะที่พี่ชายและคุณแม่ของพ่อกำลังเกี่ยวข้าวอยู่ในทุ่งนา เขาได้อ่านบทเทศน์ที่จะต้องเทศน์ในวันฉลองแม่พระยกขึ้นสวรรค์ และพูดต่อหน้าพ่อราวกับมีคนเต็มวัดกำลังฟังเขา พ่อฟังเพลินมารู้ตัวเอาเมื่อถึงเวลาทานอาหารเที่ยง และที่อยู่ลำพังเราสองคนซึ่งไม่สันทัดในเรื่องการปรุงอาหารเลย
ผมจะติดไฟเอง ส่วนเธอไปเตรียมหม้อ และหาอะไรมาปรุงเป็นอาหารกัน หลุยส์กล่าว
คุณแม่บอกให้ผม เอาไก่มาทำ เราจะใช้ทำน้ำซุปและเอาเนื้อมาทำอาหารแต่ต้องไปจับมันที่เล้า
หลังที่ได้ออกแรงไล่จับอยู่พักหนึ่ง ที่สุดเราก็คว้าไก่รุ่นกระทงได้ตัวหนึ่งคราวนี้ถึงคราวที่จะต้องฆ่ามัน แต่ใครล่ะจะเป็นคนลงมือ เราทั้งสองต่างก็ไม่กล้าที่สุดจึงตกลงกันว่า หลุยส์จะเป็นคนจับคอไก่วางบนเขียง ส่วนพ่อจะเอามีดสับคอมัน ครั้นเมื่อพ่อสับลงไป คอไก่ก็ขาดกระเด็น พร้อมกับมีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาเมื่อเห็นเช่นนั้นเราทั้งสองต่างตกอกตกใจ วิ่งหนีไปคนละทาง
แต่หลังจากนั้นชั่วครู่ หลุยส์ก็พูดขึ้นว่า
เรานี่บ้าแท้ๆ พระเป็นเจ้าทรงประทานสัตว์บนพื้นแผ่นดินให้เป็นอาหารแก่เราแล้วทำไมเราต้องรังเกียจกลัวมันด้วยเล่า?
เราจึงช่วยกันถอนขน นำไปปรุงเป็นอาหารรับประทานกัน
พ่ออยากจะไปที่ชินซาโน เพื่อฟังการเทศน์ของหลุยส์เกี่ยวกับแม่พระยกขึ้นสวรรค์ แต่พ่อเองก็ติดเทศน์ที่วัดอีกแห่งหนึ่งในวันนั้นด้วย ดังนั้นพ่อจึงไปที่ชินซาโนในวันรุ่งขึ้น และก็ได้ทราบว่าหลายคนแสดงความพอใจในการเทศน์ของหลุยส์มาก
เทศน์ถึง น. ร็อกโก โดยมิได้เตรียมตัว
วันที่ 16 สิงหาคมเป็นวันฉลอง น.ร็อกโก เราเรียกว่า วันฉลองปีญัตตา (หม้อใหญ่) เพราะญาติพี่น้องและเพื่อนๆ จะเชิญกันไปรับประทานอาหารเที่ยงและร่วมสนุกสนานกันเป็นเวลานานพอสมควร สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า พ่อมีความกล้าหาญแค่ไหน เขาได้เชิญนักเทศน์คนหนึ่งให้มาเทศน์เกี่ยวกับ น.ร็อกโก แต่พอถึงเวลาขึ้นธรรมาสน์กลับไม่เห็นใครสักคนซึ่งทำให้คุณพ่อเจ้าวัดของชินชาโนรู้สึกหนักใจมาก แม้มีคุณพ่อเจ้าวัดใกล้ๆ มาร่วมฉลองกันหลายองค์แต่ท่านก็ไม่รู้ที่จะขอร้องใครให้เทศน์แทน (เมื่อเห็นว่าพ่อเจ้าวัดไม่อยู่ไม่รู้จะตกปลาตัวใด) ทันทีทันใดพ่อจึงไปขอร้องคนนั้น คนนี้ให้ช่วยพูด 2 -3 คำกับสัตบุรุษที่รวมกันอยู่ในวัด
ไม่มีใครยอมรับเลย ตรงข้าม บางคนกลับย้อนว่า
เธอนี่ไม่มีหัวเสียเลย คิดหรือว่าการเทศน์เกี่ยวกับ น.ร็อกโก นั้นจะง่ายเหมือนดื่มเหง้าองุ่นแก้วหนึ่ง เธอเองก็ลองดูซิ" คำพูดของพระสงฆ์องค์นั้นดังทีเดียว และทุกคนต่างส่งเสียงพึมพำเห็นด้วยกับท่าน พ่อรู้สึกอายแต่ขณะเดียวกันมันก็ท้าทายความจองหองของพ่อด้วย พ่อจึงตอบไปว่า
ผมไม่อยากกลัวที่จะทำเช่นนั้น แต่ถ้าไม่มีใครทำ ผมก็จะพูดเอง
ในวัดเริ่มก่อเพลงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้พ่อมีเวลารวบรวมความคิด พ่อเคยอ่านประวัติของ น.ร็อกโก มาแล้ว จึงพยายามทบทวนเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตของท่านแล้วเริ่มเดินขึ้นไปบนธรรมาสน์ลงมือเทศน์ ปรากฎว่าบทเทศน์ของพ่อดีมากกว่าทุกๆ ครั้งที่เคยทำเสียอีก
คิดว่าจะดื่มเหล้าองุ่นชนิดเลิศกว่า
วันเดียวกันนั้นเอง พ่อออกไปเดินเล่นกับหลุยส์ โกมอลโล เราขึ้นไปบนเนินแห่งหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของสนามหญ้าท้องทุ่งนาและสวนองุ่น
ดูซิ ปีนี้ช่างแห้งแล้งจริงๆ เก็บเกี่ยวไม่ได้ผลเลย น่าสงสารชาวนาที่ต้องลงแรงมากมายแต่แล้วก็ไม่ได้ผลอะไรตอบแทน พ่อกล่าวขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ
เป็นพระเป็นเจ้าที่ทรงลงโทษเรา เพราะบาปที่เราได้ทำ เชื่อฉันเถอะ
หวังว่าปีหน้าพระเป็นเจ้าคงจะประทานฤดูที่อุดมสมบูรณ์กว่าปีนี้
ผมก็หวังเช่นนั้นว่าจะเป็นโชคดีสำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่
นี่ เราอย่ามาพูดกันถึงเรื่องเศร้าเลย สำหรับปีนี้ ช่างมันเถิด แต่ปีหน้าเราจะเก็บเกี่ยวได้อย่างอุดมสมบูรณ์ และเราจะได้ดื่มเหล้าองุ่นชั้นยอดเชียวล่ะ
เธอจะได้ดื่มแน่
แล้วเธอล่ะ เธอจะดื่มน้ำตามปกติของเธออย่างงั้นรึ?
ไม่หรอก ผมอาจจะได้ดื่มเหล้าองุ่นที่ยอดเยี่ยมกว่าอีก
หมายความว่าอย่างไร?
อย่าพูดถึงมันอีกเลย พระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบดี
เธออย่าเปลี่ยนเรื่องหน่อยเลย ที่เธอพูดว่า 'ผมอาจจะดื่มเหล้าองุ่นที่ยอดเยี่ยมกว่าอีก' นั้นหมายความว่าอย่างไร? เธอจะไปสวรรค์อย่างงั้นรึ?
ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ตายแล้วจะได้ไปสวรรค์หรือไม่ แต่ผมก็หวังเช่นนั้นจริงๆ นานมาแล้วที่ผมปรารถนาที่จะไปอยู่ในบ้านของพระบิดาเสียที จนดูเหมือนกว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่นาน
หลุยส์กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข เวลานั้นสุขภาพของเขาดีมาก และกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้านเณรพร้อมกับพ่อ •
<< back