
ตั้งแต่แรกเริ่มไม่ใช่เป็นอย่างนี้
มนุษย์ทำตัวมนุษย์เอง...ทั้งๆ ที่เสียงเรียกร้องจากส่วนลึกโหยหาความใกล้ชิด
เพราะเขามีที่มาที่ไป...เฉกเช่นสายสัมพันธ์ของลูกกับแม่ผู้ให้กำเนิด
เหมือนสายน้ำที่พวยพุ่งจากต้นธารแม้จะไหลเป็นทางไปไกลแสนไกล
แต่ก็ยังต้องโยงใยไปถึงต้นธาร...ในสายน้ำนั่นเอง
พลังของสายน้ำก็คือพลังของต้นธาร
ความใสสะอาดของสายน้ำคือความสดใสของต้นธาร
ความชุ่มฉ่ำของสายน้ำคือความสดชื่นของต้นธาร
แม้กระแสน้ำจะไหลไกลไปจากต้นธารจนลับตา... แต่ละหยดของน้ำยังคงเชื่อมต่อกัน
ย้อนรอยไปถึงต้นธารอยู่ตลอด
จวบจนวันนั้นที่ต้นธารจะแห้งผาก... สายน้ำก็คงถูกตัดขาดสิ้นสุดสายใยไปในที่สุด
ทันทีที่มนุษย์ถือกำเนิดมาจากพระเจ้า สายเชื่อมโยงก็เกิดขึ้น
ดังต้นธารกับสายธาร
และแม้ดูเหมือนมนุษย์จะห่างไกลไปจากต้นกำเนิดไปทุกวัน
แต่มนุษย์แต่ละคน ดังน้ำแต่ละหยด ยังคงเชื่อมต่อกันไป... ถึงพระเจ้าจนได้
ขณะนี้ดูฉันจะห่างไกลพระเจ้า... แต่คุณอยู่ใกล้พระองค์
ฉันก็ยังคงเชื่อมโยงกับพระเจ้า ผ่านทางคุณ คุณ คุณ คุณ...
แม้พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จะไกลจากพระเจ้า... แต่ลูกหลานเพิ่งมาจากพระเจ้า
พ่อแม่ปู่ย่าตายายยังคงเชื่อมโยงกับพระเจ้า ผ่านทางลูกทางหลาน...
เฉกเช่นหยดน้ำนี้ เชื่อมต่อหยดน้ำนั้น โน้น โน้น โน้น... ไปจนถึงต้นธารนั่นแหละ
ในเมื่อมนุษย์กระทำในสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป... เป็นเขานั่นแหละที่ตีตัวออกห่างพระเจ้า
ที่จะพูดว่าพระเจ้าทิ้งเขาไป คงจะไม่ถูกต้องนัก
เพราะการกระทำที่เขาทำลงไป เป็นตัวทำให้เขาห่างไกลไปจากพระองค์
จนกระทั่งเขาเองไม่บังอาจจะถือว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม... เขากับพระเจ้า พระเจ้ากับเขา
จึงเป็นตัวเขานั่นแหละ ที่ถอยห่างออกไป ห่างไป ห่างไป...เรื่อยๆ
ทั้งๆ ที่พระเจ้ายังคงเป็นเหมือนเดิม...ไม่เปลี่ยนแปลง
ในเมื่อมนุษย์ไม่กล้าใกล้ชิดพระเจ้าด้วยตนเอง...ความกลัวก็มาแทนความรัก
ใครก็ตามที่ดำเนินชีวิตด้วยความกลัว... ก็มีแต่ความพยายามไม่ให้ผิด... เพียงอย่างเดียว
ความกลัวกับความผิดจึงเสริมกันให้เกิดความรู้สึกร้ายๆทุกอย่าง... นรกก็ถือกำเนิดขึ้นมา
ยิ่งกลัวยิ่งผิด... แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม
ปลายทางของมันคือ โทษ โทษ โทษ โทษ...
เมื่อมีอันเป็นไป...ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น...นั่นคือผิดนั่นคือโทษ
เมื่อเป็นปกติหรือมากกว่าปกติ...ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น...นั่นคือถูกนั่นคือรางวัล
ความสัมพันธ์แนบแน่นดั้งเดิม...แบบตัวต่อตัว ใจต่อใจ...ถูกเปลี่ยนไปอย่างน่าเสียดาย
จนแทบไม่อยากจะมีอะไรกันอีก... หากเป็นไปได้
ในเมื่อสายใยแห่งใจถูกเปลี่ยนเป็นความกลัว... เครื่องบูชาเครื่องเส้นสังเวยธูปเทียน... จึงถูกนำมาแทน
ทั้งๆ ที่พระเจ้าทรงเน้นว่า สิ่งที่ทรงต้องการมากกว่าทั้งหมดคือเครื่องบูชาแห่งใจ
ในเมื่อความรักถูกเปลี่ยนเป็นความกลัว... กฎระเบียบหลักการข้อบังคับ... จึงถูกนำมาใช้เป็นตัวเชื่อมโยง
ทั้งๆ ที่พระเจ้าทรงกำชับว่า ความรักคือบทบัญญัติหนึ่งเดียวเท่านั้น
ในเมื่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดกลายเป็นความห่างไกล...บทภาวนาบทสวดบทอธิษฐาน... จึงถูกนำมาใช้สื่อแทน
ทั้งๆ ที่พระเจ้าทรงเน้นว่าสวดเป็นเรื่องของใจถึงใจในความสัตย์จริง
ท่าทีของการปฏิบัติศาสนาทั้งหมดจึงอยู่แค่ทำเพื่อไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องถูกลงโทษ ไม่ต้องมีอันเป็นไป...
หรือจะพูดอีกนัยหนึ่ง เพียงเพื่อให้ความกลัวหายไป หรือถ้าไม่ได้ ก็ขอให้ห่างไป...ยิ่งไกลยิ่งดี
พระเจ้าจึงดูห่างไกลออกไป...โดยปริยาย
เพราะไปตั้งความสัมพันธ์กับพระเจ้าบนพื้นฐานแห่งความกลัว มากกว่าความรักนั่นเอง •